ทริป เมืองปากเซ สปป ลาว

            สวัสดีคะ.... ไม่ได้เขียนบล๊อคนานมากแล้วววว(ไม่ได้ลืมนะ)! 55 วันนี้ เลยมีเรื่องราวดีๆ มาเล่าสู้กันฟัง ช่วงวันที่22-23 พ.ย 57 ที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวกับ อาจารย์ อัครเดช สุพรรณฝ่าย เป็นทริปที่สนุก ได้เห็นรอยยิ้ม พี่ๆ เพื่อนๆ น้อง ๆทุกคนทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้เป็นเที่ยวลาวเป็นครั้งแรก โดยที่อาจารย์จะปล่อยให้พวกเราทำหนังสือข้ามประเทศด้วยตัวเอง รวมถึงการเข้าไปในตัวเมืองปากเซด้วย อาจารย์จะมีกติกาให้พวกเรา โดยจะแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม โดยพวกเราจะทำเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว และไม่รู้จักกันมาก่อน ต่างคนต่างทำน่าทีของตนเอง(ทำหนังสือเดินทางเอง จ่ายเงินเอง) โดยที่ลาวจะไม่ได้ ใช้เงินบาท เหมือนที่ไทย สกุลเงินเขาจะเป็นกีบ(ได้เวลาบวกเลขแล้ว)55 ทุกอย่างคือความท้าทายหมด เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยว..

ตวรจหนังสือเดินทาง

หนังสือข้ามแดนชั่วคราว 

             พอเราทำหนังสือข้ามประเทศเสร็จ พวกเราก็ลงจากรถพร้อมกับความตื่นเต้น ด้วยความดีใจ!! แล้วเข้าไปตรวจหนังสือเดินทางแล้วเดินตามทางมาจนถึงฝั่งช่องแม็ค จะมีตึกที่เราจะต้องไปเสียตังให้ ลาว 100 บาท ไทย (คือค่าเหยียบแผ่นดินนี้เอง 55 ) อาจารย์ทำเรื่องนัดรถตู้ให้พวกเรา โดยนัดกันไปเจอที่รถตู้
พอเราทำเรื่องจ่ายเงินให้ลาวเสร็จ เราก็เดินตามทางอีก 500 ซม.

เดินทางขึ้นรถตู้ อีก 500 ซม

             เพื่อไปหารถตู้เพื่อเข้าไปในเมืองปากเซนั้นเอง พอมาถึงรถตู้(สมาชิกเราก็พร้อมแล้ว) เดินทางเข้าเมืองปากเซกันนนนนน....

สมาชิกครบแล้วววววววววว!

               

                ระหว่างเดินทาง พากัน พูดกัน ไม่หยุดเลย พากันดูข้างทาง ดูวัฒนธรรมของลาวก็ไม่แตกต่างจากไทยมากนัก ข้างทางมี ทุ่งนา มีข้าวเหลืองสวย เต็มข้างทาง (อากาศค่อนข้างร้อน)ส่วนมากจะตื่นเต้นกับการขับรถของลุงขับรถตู้ ซิ่งไปไหน 55 เราจะไม่ถนัดกับการนั่งรถ ที่คนขับจะอยู่ซ้ายมือ แลนขับก็ขับ แลน ขวา (มันแปลกๆ ดีนะ)

สะพานลาว-ญี่ปุ่น

                                  

                   พอ เข้ามาถึงทางเข้าของเมืองปากเซเราจะเห็นภูเขาข้างหน้าที่สวย สะพานลาว-ญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์แรกของการเข้าสู่ปากเซ สะพานลาว-ญี่ปุ่นเป็นสะพานที่เชื่อมลาวทั้งสองฝั่ง สาเหตุที่ชื่อว่าสะพานลาว-ญี่ปุ่นเพราะการสร้างสะพานได้รับการช่วยเหลือจากญี่ปุ่น สะพานนี้จึงชื่อว่าสะพานลาว-ญี่ปุ่น

พวกเราตื่นเต้นมากที่จะได้เข้าไปดูวัฒนธรรมของลาว รวมถึงการเป็นอยู่ของลาว.......

คฤหาน์ส คุณดาวเรือง

               เมื่อเราข้ามสะพานในทางด้านซ้ายของสะพานจะเห็นคฤหาน์สหลังใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งคฤหาน์สหลังนี้คือบ้านของคุณนายดาวเรือง หรือ "ดาว เอิ้นดาวกะได๋" บุคคลที่รวยที่สุดในปากเซและเป็นเจ้าของตลาดดาวเรือง ส่วนในทางด้านขวาของสะพานจะเป็นโรงแรมจำปาสัก แกรนด์โฮเทล

เราพึ่งรู้ว่า ไร้กาแฟของ ดาวขึ้นชื่อมาก ในเมืองปากเซ ดาวเป็นนักธุรกิจอันดับ 1 ของที่นี้เลยที่เดียว พื้นที่บ้าน ของเค้า ใหญ่มาก อึงไป 3 วิ (อยากได้แบบนี้มั่ง55)
วิว ทิวทันศ์ ดีเยี่ยม มองจากมุงบ้านของดาว จะมองเห็นแม้น้ำโขล่ง มองเห็นสะพานที่เข้ามาในตัวเมืองปากเซ มองเห็นภูเขาและวัดพูสะเหลา

ณ.วัดหลวง

สถานที่แรกในวันแรกคือ วัดหลวง เรามากราบไหว้สักการะก่อนจะเที่ยวต่อ วัดหลวงเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในกลางใจเมืองปากเซ สปป.ลาว วัดหลวงเป็นวัดที่ประชาชนชาวบ้าน หรือนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะเข้าไหว้สักกะระและเป็นวัดที่เปฺิดสอนตั้งแต่ ระดับปริญญาตรี แต่นักเรียนที่เข้ามาเรียนนั้น จะเป็นสามเณรและพระ เพราะเป็นวัดที่เปิดสอนเฉพาะ พระภิกษุ ซึ่งแตกต่างจากบ้านเราที่มีบุคคลธรรมดเข้าเรียนร่วมด้วย
จากนั้น เราก็ได้เดินทางกลับ ที่พัก เก็บ สัมภาระแล้วพร้อมเดินทางไปสถานที่ ที่2 กัน!!

ภาพทางขึ้นวัด (อ้างอิง  อินเทอร์เน็ต)

สถานะที่ที่ 2 คือ วัดพูสะเหลา ตั้ง อยู่ในภูเขาระหว่างทาง ก่อนถึงสะพานลาว-ญี่ปุ่น วัดจะอยู่บน ภูเขา มองจากเมืองปากเซก็จะเห็นพระพุทธรูปองศ์ใหญ่

พระพุทธรุปองศ์ใหญ่(อ้างอิง อินเทอร์เน็ต)

แต่ถ้ามองจากมุมพระพุทธรูปองส์ใหญ่ก็จะสามารถเห็นมองปากเซได้เกือบทั้งเมืองเลยละ ยิ่งมองตอนกลางคืนจะสวยมาก แต่สถานที่ที่ขึ้นไป ขึ้นไปได้แค่ พระพุทธรูป องศ์เล็ก เพราะ(ตอนขึ้นก็เย็นและมืดแล้ว เลย ไม่มีภาพ ถ่ายจริงมาประกอบ)

              

ร้านอาหาร เบยลาว

ค่าอาหารมื้อนี้

สถานที่ที่ 3 จากที่ได้ไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองปากเซแล้ว ก็ถึงเวลา อาหารของคืนนี้ อาจารย์ก็พาพวกเราเดินทางเข้ามารับประทานอาหาร ตามทาง จะมีร้านอาหารเต็มข้างทางให้เลือกรับประทาน รถตู้ก็จะจอดสักทีหนึ่ง เป็นจุดนัดพบทุกคนหลังรับประทานอาหารเสร็จ พวกเราลงจากรถ พร้อมเลือกร้านอาหารที่ถูกใจ จนมาถึงร้านนี้ ชื่อร้าน อาหารเบยลาว เป็น ร้านอาหารที่มีอาหารหลากหลายให้เลือก กับข้าวของเค้า อร่อยเลยทีเดียว

                       เบียร์ลาว ชื่อ เบยลาว

เด็กเชียร์เบียร์

               พวกเราเลยอยากลองเบียร์ของลาวดูสักครั้ง เลยขอสั่ง เบียร์มาลองคะ อาหารเมื่อนี้เต็มไปด้วยความสุข มีเรื่องเล่ามากมายเลยคะ แล้วภาพที่น่าชื่นชมคือ การแต่งตัวของเด็กเชียร์เบียร์คะ เลยขอถ่ายรูปไว้ การแต่งตัวที่เรียนร้อย ไม่โป๊ พูดจาไพเราะ เป็น เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี้เลยคะ และเป็นมื้อแรกที่กินหมดเป็นแสน (กีบ)555

ณ.บาร์ซ่าผับ

สถานที่ที่ 4 บาร์ซ่า(สิ่งที่ทุกคนใฝฝัน555) บาร์ซ่าเป็นสถานที่ ที่เที่ยวกลางคืน ที่ผู้คนวัยรุ่นในเมืองปากเซได้มาเที่ยวกัน แต่สิ่งที่แปลกใจของพวกเราคือ เค้าเปิดเพลงไทย ที่เค้าจะเปิดมีแต่เพลงสติงไทยที่ฮิตๆ ในเมืองไทย (ดีตรงเราร้องได้ทุกเพลง55) พอได้เข้าห้องน้ำได้ไปเจอ เด็กเสริฟ ผู้หญิง 2 คนยืนทาแป้งอยู่ เราก็ได้พูดคุยกับเค้าเรื่อง การเปิดเพลง เค้า ได้ บอกมาว่า คนส่วนมาก เค้า ก็จะฟังเพลงไทย แต่แต่ลาวมักจะมีแต่เพลงรุ่นพ่อ รุ่น แม่ คนส่วนมากเลยไม่ฟังกัน (เราก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ) แต่สิ่งที่สังเกตเห้นได้ชัดเลยว่า ไม่ว่าจะเด็กเสิร์ฟในบาร์ หรือร้านอาหาร เค้าจะแต่งตัวเรียบร้อยมิดชิด (เป็นเสน่ห์อย่างหนึงที่น่าชื่นชม)

เหตุเกิดที่บาร์ซ่า

ณ. เวลานี้ก็ ห้า ทุ่มกว่าละ ได้เวลา กลับแล้ว (อ. กำหนดเวลากลับ) แต่ทุกคนยังเมามัน อยู่เลย 55

ก็ผ่านไปอีกวันกับทริปนี้ ตลอดเวลาที่เดินทาง จนมาถึงเมืองปากเซ ทุกๆสถานที่ที่ไป มีแต่ความสุขมีแต่รอยยิ้ม............





!!!ติดตามตอนต่อไป กับวันสุดท้ายกับทริปเที่ยวเมืองปากเซ สปป ลาว!!